ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเครียดในชีวิตประจำวันพบได้บ่อยมาก วันนี้เราจะมาบอก 16 อาการสังเกตได้ของ โรคไบโพลาร์ Bipolar Disorder หรือโรคอารมณ์สองขั้ว
สารบัญ
โรคไบโพลาร์ คืออะไร?
เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางอารมณ์เด่นชัด โดยจะมีอารมณ์เศร้ามากผิดปกติ อ่อนเพลีย ร้องไห้ อยากตาย ผิดหวัง หรืออารมณ์ดีมากผิดปกติ พูดมาก ครึกครื้น ผู้ป่วยจะมีอาการเพียงด้านเดียว หรือมีอาการสองด้านก็ได้
ไบโพลาร์เป็นความผิดปกติทางอารมณ์ชนิดหนึ่ง ที่มีการขึ้น และลงของอารมณ์อย่างรุนแรง โดยสาเหตุสำคัญนั้น เกิดจากสารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ หรืออาจเกิดจากความเครียดสะสม หรือการอดนอนบ่อย ๆ การแสดงออกทางอาการแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ อาการแมเนีย (Mania) อารมณ์ดี สนุกสนาน คึกคัก และ อาการซึมเศร้า (Depress) เราจึงเรียกโรคนี้ว่า โรคอารมณ์สองขั้ว
ขั้วบวก = แมเนีย
ขั้วลบ = ซึมเศร้า
โดยปกติคนเรานั้นจะมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วกลับมาอารมณ์ปกติ รับผิดชอบต่อหน้าที่ได้ แต่คนที่มีอารมณ์ผิดปกติ คือเกิดอารมณ์ขั้วบวก ขั้วลบเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป และไม่สามารถกลับเข้าสู่อารมณ์ปกติได้ จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และความสัมพันธ์ของคนรอบข้างอีกด้วย การสังเกตอาการเริ่มต้นนั้นไม่ยาก ผู้ป่วยจะมีสัญญาณเริ่มต้น ได้แก่
- ขั้วบวก คือ หงุดหงิดง่าย ไม่นอน 2-3 วัน พูดมากขึ้น ร่าเริงผิดปกติ หรือบางคนอาจจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
- ขั้วลบ คือ เศร้าผิดปกติ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร คิดลบ ไม่อยากมีชีวิตต่อ
16 อาการของคนเป็นโรคไบโพลาร์
ขั้วบวก หรือช่วงเบิกบาน หากหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ นานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และมีอย่างน้อย 3 ข้อของ อารมณ์คลั่ง ต่อไปนี้
- รู้สึกลำพองในตัวเอง
- นอนน้อยลง
- พูดมากกว่าปกติ
- ความคิดแล่นเร็ว
- ขาดสมาธิ วิธีการคิดลดลง
- มีกิจกรรมทางสังคม หรือทางเพศมากขึ้น
- ขาดความรอบคอบ เช่น ซื้อของฟุ่มเฟือย ขับรถเร็ว เป็นต้น
ขั้วลบ หรือซึมเศร้า มีอาการพร้อมกันอย่างน้อย 5 ข้อ นาน 2 สัปดาห์
- ซึมเศร้า
- สนุกน้อยลง หมดแพชชั่น
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือลดลง
- นอนน้อย หรือมากเกินไป
- ความคิด การเคลื่อนไหวช้าลง
- อ่อนแรง
- รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
- สมาธิสั้น หรือการคิดลดลง
- อยากฆ่าตัวตาย
วิธีรักษาไบโพลาร์
การรักษานั้นหลายคนมักจะเข้าใจผิด คิดว่าโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคนี้รักษาได้ โดยการใช้ยาเป็นวิธีรักษาหลัก แพทย์จะให้ยาทางจิตเวช เพื่อปรับสื่อประสาท และควบคุมอารมณ์พร้อมกับให้คำแนะนำเกี่ยวกับ โรค และยา รวมถึงดูแลตนเองในด้านต่าง ๆ ควบคู่กันไป สำหรับผู้ป่วยบางคน แพทย์อาจจะแนะนำให้ทำจิตบำบัดร่วมด้วย เพื่อให้สามารถจัดการกับความเครียดได้ดี และลดความขัดแย้งกับคนรอบข้างที่เป็นสาเหตุของความเครียด ข้อห้ามหลัก ๆ คือ ไม่ควรหยุดยาเอง ไม่อดนอน ไม่ใช้สารเสพติด หรือดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากอาการผิดปกติเหล่านี้ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
หากลองสังเกตดี ๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเครียดพบได้บ่อยมาก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังส่งผลกระทบทั้งทางร่างกาย และจิตใจ มีความผิดปกติทางด้านอารมณ์อีกชนิดหนึ่ง
สัญญาณเตือน! หากเข้าข่ายเสี่ยงเป็นไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์นี้ เป็นโรคที่คนรอบข้างต้องทำความเข้าใจกับผู้ป่วย หากสังเกตอาการของคนรอบข้างแล้ว ว่ามีแนวโน้มที่เสี่ยงเป็นโรคดังกล่าว ควรเข้ารับการปรึกษา และรักษาอย่างเหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ได้ให้คำแนะนำถึงสัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเสี่ยงเป็นไบโพลาร์นั่นเอง
หากผู้ป่วยเองอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วย หรือรู้สึกลำบากใจที่จะยอมรับ ไม่กล้าเข้าพบจิตแพทย์ ทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และเหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด และความทุกข์ใจข่อคนรอบข้างได้นั่นเอง โรคที่เรากล่าวถึงนี้คือ โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) หรือโรคอารมณ์สองขั้ว
วิธีขจัดปัญหากับความเครียดนั้นมีอยู่หลายวิธี ทั้งการออกไปหาอะไรทำใหม่ ๆ ท่องเที่ยว พักผ่อนให้มาก ๆ หรือการ เล่นเกม หากิจกรรมทำ การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญ ในบทความนี้เรามอบความรู้ และสาระไว้ให้ทุกคนได้ติดตามกัน
ขอบคุณรูปภาพจาก sanook